วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

วิธีการฝึกแมวเหมียวน้อยให้เชื่อง

วิธีการฝึกแมวเหมียวน้อยให้เชื่อง
แม้แมวจะเป็นสัตว์ที่ฝึกยาก...แต่อย่าเพิ่งคิดว่าจะฝึกไม่ได้เพราะนิสัยรักอิสระ และเป็นตัวของตัวเองสูง ผู้เลี้ยงจึงต้องใช้ความอดทนมากกว่า การฝึกสัตว์ชนิดอื่น ๆโดยอายุที่เหมาะสมที่สุดในการฝึกลูกแมว คือ ประมาณ 8 สัปดาห์ ซึ่งมีเทคนิค ดังนี้...

วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เสียงในภาษาไทย

เสียงในภาษาไทย

   

     ในชีวิตประจำวัน เราผลิตเสียงในภาษามากมายเพื่อสื่อสารระหว่างกัน จนเราไม่ทันสังเกตกระบวนการของการผลิตเสียงพูดเหล่านั้นเลย ทุกอย่างเป็นไปอย่างอัตโนมัติ จนเราไม่สังเกตแต่กระนั้นเราก็ยังสามารถรับรู้และแยกความแตกต่างของเสียงแต่ละเสียงได้ดังเช่น คำว่า "กา" กับ "ปา" มีเสียงพยัญชนะต้นแตกต่างกัน โดยคำว่า "กา" มีเสียง /ก/ เป็นเสียงพยัญชนะต้น ส่วนคำว่า "ปา" มีเสียง /ป/ เป็นพยัญชนะต้น การที่เรารู้ภาษาใดใดก็ตาม เราจะรู้และสามารถจำแนกเสียงในภาษานั้นๆ ได้ เฉกเช่นเดียวกับที่เรารู้ภาษาไทย เราก็จะตระหนักรู็เสียงสำคัญในภาษาไทยได้ อันนำไปสู่การนำเสียงต่างๆ มาประกอบเป็นคำตามระบบของภาษาไทยเพื่อใช้สื่อสารต่อไป สำหรับในภาษาไทยนั้น มีเสียงสำคัญ 3 เสียง ได้แก่ เสียงพยัญชนะ เสียงสระ และเสียงวรรณยุกต์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1. เสียงพยัญชนะในภาษาไทย
        เสียงพยัญชนะ คือ เสียงที่ถูกดัดแปลงกระแสลมภายในช่องปากให้ออกเสียงเป็นคำๆ ด้วยเหตุนี้ในบางตำราจึงเรียกประเภทนี้ว่า "เสียงแปร" สำหรับในภาษาไทยมีเสียงพยัญชนะทั้งหมด 21 เสียง ดังนี้

        พึงสังเกตเห็นว่า เสียงพยัญชนะหลายเสียงมีรูปพยัยชนะมากกว่ารูปหนึ่ง ทั้งนี้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของภาษา รวมทั้งอิทธิพลของการยืมภาษาต่างประเทศเข้ามาใช้ในภาษาไทย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ผู้เรียนเกิดความสับสนเมื่อต้องเขียนคำที่มีเสียงเดียวกันแต่รูปต่างกัน เช่น ฆ่า ข้า ค่า เป็นต้น กระนั้นก็ดี เสียงพยัญชนะในภาษาไทย สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยตามตำแหน่งที่ปรากฏ ดังนี้ 
        1.1 เสียงพยัญชนะต้น คือเสียงพยัญชนะที่ปรากฏในตำแหน่งต้นพยางค์ เช่น คำว่า "ปา" มีเสียงพยัญชนะต้น คือ เสียง /ป/ เป็นต้น เสียงพยัญชนะในภาษาไทยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามจำนวนของเสียงพยัญชนะต้นที่สามารถปรากฏในตำแหน้งต้นพยางค์ได้ ดังนี้
             1.1.1 เสียงพยัญชนะต้นเดี่ยว คือ เสียงพยัญชนะเสียงใดเสียงหนึ่งเพียงเสียงเดียวที่เกิดในตำแหน่งต้นพยางค์ หรือต้นคำ เช่น "กา" มีเสียง /ก/ เป็นเสียงพยัญชนะต้น เสียงพยัญชนะในภาษาไทยทุกเสียงสามารถปรากฏได้ในตำแหน่งเสียงพยัญชนะต้นเดี่ยวได้
             1.1.2 เสียงพยัญชนะต้นควบ คือเสียงพยัญชนะสองเสียงที่ปรากฏในตำแหน่งต้นพยางค์ หรือต้นคำ พร้อมทั้งออกเสียงพยัญชนะต้นนั้นพร้อมกัน เช่น คำว่า "พริก" มีเสียง /พร/ เป็นเสียงพยัญชนะต้นควบ
              เสียงพยัญชนะต้นควบในภาษาไทยมีข้อจำกัดคือ เสียงแรกจะต้องเป็นเสียงใดเสียงหนึ่งใน 5 เสียงต่อไปนี้ คือ /ก/ /ค/ /ป/ /พ/ /ต/ และจะปรากฏร่วมกันกับเสียงที่สอง ซึ่งอาจเป็นเสียงใดเสียงหนึ่งใน 3 เสียงต่อไปนี้ คือ เสียง /ร/ /ล/ และ /ว/ ภาษาไทยมีเสียงพยัญชนะต้นควบ 11 คู่ ดังตัวอย่าง


        1.2 เสียงพยัญชนะท้าย คือ เสียงพยัญชนะที่เกิดปรากฏในตำแหน่งท้ายพยางค์ หรือท้ายคำ เช่น คำว่า "มาก" มีเสียง /ก/ เป็นเสียงท้ายพยางค์ ในตำราหลักภาษาไทยมักเรียกพยัญชนะท้ายเหล่านี้ว่า "มาตราตัวสะกด" ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 8 มาตรา หรือ 8 เสียง โดยบางเสียงนั้น อาจมีรูปพยัญชนะที่แทนเสียงพยัญชนะได้มากกว่าหนึ่งรูป ดังตัวอย่าง




สื่อการเรียนการสอนเสียงพยัญชนะในภาษาไทย





2. เสียงสระในภาษาไทย
        เสียงสระ คือ เสียงที่ไม่ถูกดัดแปลงกระแสลมภายในช่องปาก ด้วยเหตุนี้ในบางตำราจึงเรียกเสียงประเภทนี้ว่า เสียงแท้ เสียงสระในภาษาไทยมี 21 เสียง อีกทั้งทุกเสียงเป็นเสียงโฆษะ กล่าวคือเป็นเสียงที่มีความก้อง เนื่องจากการสั่นสะเทือนของเส้นเสียง เสียงสระในภาษาไทยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เสียงสระเดี่ยว และเสียงสระประสม มีรายละเอียด ดังนี้
        2.1 เสียงสระเดี่ยว คือ สระพื้นฐานเสียงเดียว ในภาษาไทยมีสระเสียงเดี่ยว 18 เสียง โดยแบ่งเป็นสระเสียงสั้น (รัสสระ) 9 เสียง และสระเสียงยาว (ฑีฆสระ) 9 เสียง ดังนี้
        2.2 เสียงสระประสม คือ เสียงสระที่เกิดจากการประสมของเสียงเดี่ยวสองเสียง ดังนั้นในบางครั้งจึงเรียกเสียงสระปรมสมนี้ว่า สระเลื่อน เนื่องจากเรียกตามการออกเสียงที่ผู้พูดต้องออกเสียงสระเดี่ยวแรกก่อนที่จะออกเสียงสระเดี่ยวที่สองตามมา เสียงประสมในภาษาไทย มี 3 เสียง คือ

                                       เอีย เกิดจากเสียงสระเดี่ยว อิ + อะ หรือ อี + อา
                                       เอือ เกิดจากเสียงสระเดี่ยว อึ + อะ หรือ อื + อา
                                       อัว เกิดจากเสียงสะเดี่ยว    อุ + อะ หรือ อู + อา

       กระนั้น ในตำราหลักภาษาไทยเดิม และหนังสือยืมเรียนภาษาไทยหลายเล่ม ยังคงยึดว่า เสียงสระประสมในภาษาไทยมี 6 เสียง โดยมีความแตกต่างระหว่างเสียงสั้นกับเสียงยาว เฉกเช่นเดียวกับสระเดี่ยว คือ เอียะ-เอีย เอือะ-เอือ และอัวะ-อัว แต่ในความเป็นจริงแล้วเสียงสระประสมมีเพียง 3 เสียงเท่านั้น และไม่มีความแตกต่างระหว่างเสียงสั้นกับเสียงยาว


        นอกจากนี้ ในตำราหลักภาษาไทยดั้งเดิม และหนังสือเรียนภาษาไทยหลายเล่มยังคงจัดให้เสียงบางเสียงเป็นเสียงสระ โดยเรียกว่า สระเกิน ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 8 เสียง คือ อำ ไอ ใอ เอา ฤ ฤา ฦ ฦา แต่ปัจจุบัน นักภาษาศาสตร์ไม่จัดเสียงเหล่านี้ว่าเป็นเสียงสระในภาษาไทย ด้วยเหตุผลที่ว่า เสียงสระดังกล่าวมีความซ้ำซ้อนกับเสียงสระเดี่ยวที่มีอยู่ รวมทั้งเสียงบางเสียงมีเสียงพยัญชนะประสมอยู่ด้วย มีรายละเอียด ดังนี้
        ยกตัวอย่าง คำว่า "ใน" "ไน" และ "นัย" ที่สะกดด้วย ใอ ไอ และ อะ + ย ตามลำดับ โดยจะเห็นว่าแม้เขียนต่างกันแต่ออกเสียงเหมือนกัน จึงเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าได้ว่า ใอ หรือ ไอ ก็ตาม เกิดจากเสียงสระเดี่ยวคือ เสียงสระอะ ตามด้วยเสียงพยัญชนะท้าย คือ ย ด้วยเหตุนี้การเรียนการสอนเรื่องเสียงสระในปัจจุบัน จึงไม่นับเสียงทั้ง 8 เสียง นี้เป็นเสียงสระใหม่แต่อย่างใด หากแต่เป็นเสียงสระเดี่ยวที่ตามด้วยเสียงพยัญชนะต้นหรือพยัญท้ายเท่านั้น





3. เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทย
        วรรณยุกต์ คือ เสียงสูงต่ำที่มีผลต่อความหมายของคำ ในภาษาไทยเสียงสูงต่ำที่แตกต่างกัน มีผลต่อความหมายของคำ เช่น ป่า กับ ป๊า จะเห็นว่าคำทั้งสองคำมีพยัญชนะต้น ป และเสียงสระอา เหมือนกันทุกประการ แต่ต่างกันที่เสียงสูงต่ำ โดยคำว่า ป่า ออกเสียงต่ำ และคำว่า ป๊า ออกเสียงสูง เสียงสูงต่ำที่แตกต่างกันนี้มีผลต่อความหมายที่แตกต่างกัน โดยคำว่า ป่า มีความหมายว่า พื้นที่ที่มีต้นไม้ต่างๆ ขึ้นมาก และคำว่า ป๊า มีความหายว่า พ่อ เป็นคำยืมภาษาจีน เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทย มีทั้งหมด 5 เสียง ดังนี้
       3.1 เสียงวรรณยุกต์สามัญ คือ เสียงวรรณยุกต์ระดับกลาง เช่น จาน ลา ครู งาม เป็นต้น
       3.2 เสียงวรรณยุกต์เอก คือ เสียงวรรณยุกต์ระดับต่ำ เช่น ป่า ขวด สืบ หมวก เป็นต้น
       3.3 เสียงวรรณยุกต์โท คือ เสียงวรรณยุกต์เปลี่ยนจากระดับจากสูงลงมาต่ำ เช่น ป้า ห้า ชอบ เป็นต้น
       3.4 เสียงวรรณยุกต์ตรี คือ เสียงวรรณยุกต์ระดับสูง เช่น ลบ เค้ก น้อง ย้าย เป็นต้น
       3.5 เสียงวรรณยุกต์จัตวา คือ เสียงวรรณยุกต์เปลี่ยนระดับจากต่ำขึ้นไปสูง เช่น ป๋า ขา หมา เป็นต้น

       ด้วยเหตุนี้ ในบางตำราจึงจัดให้เสียงวรรณยุกต์สามัญ เอก และตรี เป็นวรรณยุกต์ระดับ ส่วนเสียงวรรณยุกต์โท และจัตวา เป็นเสียงวรรณยุกต์เปลี่ยนระดับ



สื่อการเรียนการสอนเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทย








อ้างอิงข้อมูลจาก : 
กำชัย ทองหล่อ. (2550). หลักภาษาไทย. กรุงเทพมหานคร: บริษัทรวมสาส์น จำกัด.
กาญจนา นาคสกุล. (2551). ระบบเสียงในภาษาไทย. กรุงเทพมหานคร: โครงการเผยแพร่ผลงานวิชาการ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อุปกิตศิลปสาร , พระยา. (2546). หลักภาษาไทย (อักขรวิธี วจีวิภาค วากยสัมพันธ์ ฉันทลักษณ์). กรุงเทพมหานคร. โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพาณิช จำกัด
https://50430ratchst.files.wordpress.com/2017/02/20161121160657.png?w=500
https://krusuriyapasathai.files.wordpress.com/2012/07/e0b89ee0b8a2e0b8b1e0b88de0b88ae0b899e0b8b0e0b984e0b897e0b8a23.jpg
https://krusuriyapasathai.files.wordpress.com/2012/07/e0b8ade0b8b1e0b881e0b8a9e0b8a3e0b884e0b8a7e0b89ae0b881e0b8a5e0b989e0b8b3e0b981e0b897e0b989.jpg
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhR0npyiynf_WGiQRl5IztZlZQCsgpCCKhN3He9-LK0-mFuD6OT7LlFQIRoJyY9OtWeRHGW6V2IESideW-eZppr_20zxu9rarcdhWOO1AWi_Y7kb44CM9p24MO14eYt7MqvEDJTCCpdXMY/s640/thai-p9-1.png
https://krusuriyapasathai.files.wordpress.com/2012/07/e0b8a5e0b8b1e0b881e0b8a9e0b893e0b8b0e0b882e0b8ade0b887e0b8aae0b8a3e0b8b0e0b980e0b894e0b8b5e0b988e0b8a2e0b8a7.jpg
https://krusuriyapasathai.files.wordpress.com/2012/07/e0b8aae0b8a3e0b8b0e0b980e0b8a5e0b8b7e0b988e0b8ade0b899.jpg
https://krusuriyapasathai.files.wordpress.com/2012/07/e0b8aae0b8a3e0b8b0e0b980e0b881e0b8b4e0b899.jpg
https://krusuriyapasathai.files.wordpress.com/2012/08/hand.jpg
https://www.youtube.com/watch?v=Wa8_Y1oZeBA&t=15s
https://www.youtube.com/watch?v=SzSfUQip8_I&t=10s
https://www.google.co.th/search?hl=th&biw=1366&bih=588&tbm=isch&sa=1&ei=Tt5_WvTnHpG8vwSVp4CAAg&q=%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2&oq=%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2&gs_l=psy-ab.3..0l10.3031.5992.0.6166.11.8.1.2.2.0.161.953.0j7.8.0....0...1c.1.64.psy-ab..0.10.963.0..0i67k1.127.agz2F2Snz-I#imgrc=s29_9r608vSB2M:
https://www.google.co.th/search?hl=th&biw=1366&bih=588&tbm=isch&sa=1&ei=Tt5_WvTnHpG8vwSVp4CAAg&q=%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2&oq=%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2&gs_l=psy-ab.3..0l10.3031.5992.0.6166.11.8.1.2.2.0.161.953.0j7.8.0....0...1c.1.64.psy-ab..0.10.963.0..0i67k1.127.agz2F2Snz-I#imgrc=qHfvfzV10V2iIM:














วันเสาร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2561

คำเป็น คำตาย

คำเป็น คำตาย


คำเป็น  คำตาย
          คำเป็น  คำตาย  เป็นการจำแนกคำตามลักษณะที่ใช้ระยะเวลาออกเสียงต่างกัน  ซึ่งลักษณะดังกล่าวจะทำให้คำที่มีเสียงพยัญชนะต้นเป็นรูปเดียวกัน  มีเสียงวรรณยุกต์ต่างกัน  ตัวอย่างเช่น  คา  เป็นอักษรต่ำ  คำเป็น  พื้นเสียงเป็นเสียงสามัญ

BioLite ผลิตเตาพกพา CampStove

BioLite ผลิตเตาพกพา CampStove
อ้างอิง https://www.iurban.in.th/gadget/biolite-campstove/

อ้างอิง http://www.creativemove.com/design/biolite-stove/

          คุณรู้หรือไม่ว่าใน
1 ปี มีประชากรเกือบ 4 ล้านคนต้องเสียชีวิตจากการทำอาหารในครัวเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กและผู้หญิงในประเทศยากจน ใช่! คุณอ่านไม่ผิดหรอกจากการทำอาหารนี่แหละ เพราะส่วนใหญ่ประชากรในประเทศเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ไม้และฟืนซึ่งก่อให้เกิดควันพิษอันเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตดังกล่าว ครั้นจะใช้เชื้อเพลิงที่ปลอดภัยกับการทำอาหารก็มีราคาสูงสำหรับประเทศที่มีรายได้น้อยเหล่านี้ ไม้และฟืนเลยกลายเป็นตัวเลือกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

วิธีการฝึกแมวเหมียวน้อยให้เชื่อง

วิธีการฝึกแมวเหมียวน้อยให้เชื่อง แม้แมวจะเป็นสัตว์ที่ฝึกยาก...แต่อย่าเพิ่งคิดว่าจะฝึกไม่ได้ เพราะนิสัยรักอิสระ และเป็นตัวของตัวเองสูง ผู...